เที่ยวหน้าหนาวให้จุใจที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง


ในฤดูหนาวแต่ละปีนะครับ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางผจญภัยไปในที่ต่างๆ ทั่วเมืองไทย โดยส่วนมากจะเป็นกาเที่ยวภูเขา เที่ยวดอย เพื่อให้เหมาะกับฤดูกาลและรับลมหนาวอย่างเต็มที่ และมีอยู่สถานที่หนึ่งครับ ที่เป็นเหมือไอคอนหลักในการเที่ยวหน้าหนาว เพราะมีทั้งการเดินเท้าขึ้นเขา สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ประกอบเขาบนยอดเขามีจุดชมวิวทะเลหมอก ชมพระอาทิตย์อันเลื่องชื่อ พร้อมน้ำตกและต้นไม้หลายชนิด ที่แห่งนั้นนะครับก็คือ “ภูกระดึงครับ” ภูกระดึงอยู่ที่ ตำบลศรีฐาน  อำเภอภูกระดึง  จังหวัดเลย   ส่วนใครที่กลัวไปไม่ถุกผมก็มีแผนที่ให้ด้านล่างนะครับ
ภูกระดึงขอบคุณภาพจาก siamtravel.in.th
ภูกระดึง ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 2 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2505 ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ครอบคลุมพื้นที่ 348.13 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด โดยมีที่ราบบนยอดภูกระดึงประมาณ 60 ตารางกิโลเมตรด้วยความสูง บรรยากาศ และสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปีบนยอดภูกระดึง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิอาจลดต่ำจนถึง 0 องศาเซลเซียส จึงเป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวปรารถนาที่หวังจะเป็นผู้พิชิตยอดภูกระดึงสักครั้งหนึ่งในชีวิตภูกระดึง มีระดับความสูงอยู่ระหว่าง 400 – 1,200 เมตร จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย มีความสูง 1,316 เมตร สภาพทั่วไปของภูกระดึงประกอบไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด พันธุ์สัตว์ป่านานาพันธุ์ หน้าผา ทุ่งหญ้า ลำธาร และน้ำตก อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำพองซึ่งเป็นลำน้ำสายสำคัญสายหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภูกระดึงขอบคุณภาพจาก dnp.go.th
ภูมิอากาศของอุทยานแห่งชาติภูกระดึงบริเวณที่ระดับต่ำตามเชิงเขา มีสภาพโดยทั่วไปใกล้เคียงกับบริเวณอื่นๆ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม ฝนตกชุกที่สุดระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน อุณหภูมิเฉลี่ยรายปี 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดในเดือนมกราคม และอุณหภูมิสูงสุดในเดือนเมษายนในช่วงฤดูฝน มักเกิดภัยธรรมชาติ เช่น เกิดการพังทลายของภูเขาและมีน้ำป่า ทางอุทยานแห่งชาติจึงกำหนดให้ปิด-เปิดการท่องเที่ยวเฉพาะบนยอดเขาภูกระดึง เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และให้สภาพธรรมชาติและสภาพแวดล้อมได้มีการพักฟื้นตัว หลังจากนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมอย่างมากในแต่ละปี ดังนี้
– เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 31 พฤษภาคม ของทุกปี
 ปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 30 กันยายน ของทุกปี
ภูกระดึงภาพจาก nikonianthailand.com
ภูกระดึงภาพจาก pixpros.net
การได้ถ่ายรูปกับป้าย “ครั้งหนึ่งในชีวิต เราเป็นผู้พิชิตภูกระดึง” ยังคงเป็นที่นิยมคลาสสิกตลอดกาล นอกจากการชมทัศนียภาพบนยอดภูแล้ว ไฮไลท์สำคัญที่พลาดไม่ได้คือการชมดอกเมเปิ้ลสีแดงสดริมธารน้ำตก
ภูกระดึงภาพจาก travel.thaiza.com
ภูกระดึง ภาพจาก th.aectourismthai.com
การเดินขึ้นภูกระดึงไม่ลำบากมากนัก แต่ระยะทางจะไกลและชัน แต่ระหว่างทางจะมีจุดให้แวะพักเหนื่อยต่างๆ ตามลำดับ ได้แก่ ปางกกค่า ซำแฮก ซำบอน ซำกกกอก พร่านพรานแป ซำกกหว้า ซำกกโดน และซำแคร่ หากเดินขึ้นภูตั้งแต่เช้า อากาศจะค่อนข้างเย็นสบาย มีสิ่งที่น่าสนใจให้ชมไปตลอดทาง โดยเฉพาะสภาพทางธรณีและสภาพป่าที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นระยะๆ จากป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา จนถึงหลังแป จากหลังแปถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวางจะเป็นทางราบท่ามกลางทุ่งหญ้าป่าสนเขาอันกว้างใหญ่ รวมระยะทางจากทางขึ้นไปถึงหลังแปและศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง ประมาณ 9 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง
แหล่งท่องเที่ยวบนภูกระดึงส่วนใหญ่มีทางเดินชมธรรมชาติติดต่อถึงกันหมด ฉะนั้น ผู้ที่จะไปท่องเที่ยวบนภูกระดึงควรใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน เพื่อจะได้เที่ยวชมธรรมชาติที่สวยงามเหล่านั้นได้ทั่วถึง
ภูกระดึงภาพจาก www.shots.net
ภูกระดึงภาพจาก chiangraifocus.com
ท่านที่ประสงค์จะเข้าไปท่องเที่ยวและพักแรมบนยอดภูกระดึง สามารถติดต่อสอบถาม หรือสำรองการเข้าไปใช้บริการล่วงหน้าได้โดยตรง ณ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง โทรศัพท์หมายเลข 0-42810-833 และ 0-42810-834 ในเวลาราชการ (08.00 น.-16.30 น.) กรณีที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาท่องเที่ยวพักแรมบนยอดเขาที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึงนั้น ให้มาติดต่อซื้อค่าบริการบุคคลก่อนเวลา 13.30 น. และในเวลา 14.00 น. ของทุกวันจะทำการปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นเขาและลงเขาในแต่ละวัน
ภูกระดึงภาพจาก dnp.go.th
แผนที่ ภูกระดึงภาพจาก dnp.go.th

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย

อุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน